วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2559

เรื่องที่ ๑๒ เรื่องโง่ๆของผม

ขอแทรกเรื่องราวตระกูลด้วยเรื่องส่วนตัวของผม ที่ผมเขียนไว้เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๗

ดูข่าวนักชกสาวชาวอินตะระเดียเอาเหรียญทองแดงไปคล้องคอนักชกโสมขาวที่เอาชนะตนเองไปแบบค้านสายตาคนทั่วโลก
ทำให้ผมคิดถึงเรื่องราวของผมเมื่อครั้งอดีต ที่หลายคนบอกว่าผมโง่

หลังจากที่ผมทำงานที่ รพ.บ้านโป่ง ราชบุรี นาน ๘ ปีผมก็ลาออกไปทำงานที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)ปกติเป็น ธรรมเนียมของ รพ.บ้านโป่ง เมื่อมีหมอคนไหนย้ายหรือลาออก จะมีการซื้อทองให้ ๑ บาท โดยใช้เงินที่องค์กรแพทย์เก็บจากหมอทุกคนเข้าเป็นกองกลางเพื่อทำกิจกรรม ต่างๆ
แต่ผมเป็นแกะดำขององค์กรแพทย์ รพ.บ้านโป่ง การที่ตัดสินใจลาออกจากราชการเหตุผลสำคัญก็มาจากการดำเนินชีวิตสวนทางกับสมาชิกองค์กรแพทย์
ผมเลยประกาศชัดเจนว่าผมลาออกจาก รพ.บ้านโป่ง องค์กรแพทย์ไม่ต้องเลี้ยง ไม่ต้องซื้อของให้ เพราะถึงจัดเลี้ยงส่งผมก็ไม่ไป และไม่รับของ
มีคนหาว่าผมโง่ ไม่รู้จักใช้สิทธิ เพราะเงินส่วนหนึ่งขององค์กรแพทย์ก็เป็นเงินที่เก็บไปจากค่าจ้างแรงงานของผม ผมก็ตอบไปว่าผมได้ของขวัญชิ้นใหญ่แล้วคือได้ออกจาก รพ.บ้านโป่ง ไปมีงานใหม่ทำที่ไม่ด้อยไปกว่าเดิม

ผมไม่รู้เหมือนกันว่าองค์กรแพทย์เขาจัดเลี้ยงส่งผม โดยไม่มีผมในงานหรือเปล่า ฮิๆๆ

แต่ถึงผมจะประกาศไปแบบนั้น เอาเข้าจริงผมก็ต้องตระเวนไปงานเลี้ยงส่งอยู่ดี เพราะตอนที่ผมลาออกนั้นผมลาออกพร้อมกับ นพ.ฉัตร กิติบวร สาธารณสุขนิเทศเขต ๔
นพ.นรา นาควัฒนานุกูล หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดเลี้ยงส่งพี่ฉัตรในนามของเขตตรวจราชการที่ ๔ เลยพ่วงผมไปด้วยเพราะเป็นน้องเล็กของผู้บริหารทั้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ของ ๘ จังหวัดภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันตกในขณะนั้น
นอกจากนั้น นพ.พิชาติ ดลเฉลิมยุทธนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านโป่ง ที่เป็นคู่หูเล่นกอล์ฟกับผมทุกสัปดาห์ (และครั้งหนึ่งผิดใจกันถึงขั้นไม่พูดกัน แต่ก็ไปเดินเล่นด้วยกัน ๒ คนโดยไม่พูดกันแม้แต่คำเดียว) ยังได้กรุณาจัดงานเลี้ยงส่ง โดยเชิญแต่หมอและพยาบาลที่ซี้ๆกันในกลุ่มเฮฮาปาร์ตี้ไม่กี่คนไปกินข้าว ร้องรำทำเพลง

ผมมานั่งคิดย้อนหลังไป ทำไมวันนั้นผมไม่รับทองขององค์กรแพทย์แล้วเอาไปขายเอาเงินไปทำประโยชน์อย่างอื่น กลับเพิกเฉยต่อทอง ๑ บาท ผมโง่จริงๆหรือเปล่า ใครช่วยผมตอบที เผื่อมันมีประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ผมจะได้ตัดสินใจถูกว่าควรทำอย่างไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น